A&R Tewa Bucha น้ำกุหลาบ
A&R Tewa Bucha น้ำกุหลาบ
#น้ำกุหลาบ #rosewater
ROSE WATER น้ำกุหลาบ ขนาด 300มล.
ใช้ตบๆผิวหน้าเบาๆ เพื่อผิวเนียนนุ่ม หรือจะใช้ชุบสำลีเช็ดเป็นโทนเนอร์ก็ได้ ใช้หลังล้างหน้าก่อนลงครีม
น้ำกุหลาบยังสามารถบริโภคได้ ผสมกับน้ำ เครื่องดื่ม หรือชา เพื่อเพิ่มรสชาติ หรือใช้แต่งกลิ่นอาหาร ของหวาน ให้หอมมม สดชื่น
......(เกร็ดความรู้เรื่องไทยศึกษา)
น้ำกุหลาบ
วัฒนธรรมน้ำกุหลาบได้เข้ามาเผยแพร่ในสังคมไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นจากบันทึกของดูอาร์ตู บาร์โบซา (Duarte Barbosa) ชาวโปรตุเกสซึ่งเดินทางมารอบมหาสมุทรอินเดียฝั่งตะวันออกเมื่อ พ.ศ. 2045 กล่าวถึงชนชาติต่างๆ ที่อยู่ในเขตอาณาจักรสยาม โดยเฉพาะมุสลิมซึ่งประกอบการค้าอยู่ตามเมืองท่าฝั่งตะวันตกของสยาม เช่น ที่มะริดและตะนาวศรี
ในบันทึกกล่าวว่าคนเหล่านี้นำสินค้าประเภททองแดง ปรอท ชาด ผ้าพื้น ไหม กำมะหยี่จากเมกกะ หญ้าฝรั่น สร้อยปะการัง น้ำกุหลาบ ฝิ่น และผ้าคุชราต เข้ามาขาย สินค้าเหล่านี้จำหน่ายได้ราคาดีในสยาม
ในรายการสินค้าที่พ่อค้ามุสลิมนำเข้ามาขายในสยามมักมีน้ำกุหลาบรวมอยู่ด้วย จากบันทึกของโบซากล่าวถึงน้ำกุหลาบที่พ่อค้าแขกนำเข้ามาขายตามเมืองท่าของสยามว่า น้ำกุหลาบนำมาจากเมืองเมกกะและเอเดนในผอบทำจากทองแดงเคลือบดีบุก ซึ่งราคาขายตามน้ำหนัก ยังกล่าว่าสินค้าเหล่านี้จะได้ราคาดีมาในราชอาณาจักรสยาม...
... นอกจากนี้น้ำกุหลาบซึ่งนำเข้ามาจากเปอร์เซียแล้ว ชาวสยามยังนิยมใช้ น้ำดอกไม้เทศ มักเข้าใจกันว่าน้ำกุหลาบกับน้ำดอกไม้เทศเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกัน แต่หากพิจารณาจากบันทึกหลายฉบับพบว่า น่าจะเป็นคนละชนิด ในคำให้การของขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรมกล่าวถึงน้ำที่ใช้สรงพระบรมศพของสมเด็จพระเจ้าบรมโกศระบุว่าประกอบด้วยนำ้กุหลาบ และน้ำดอกไม้เทศ
สันนิษฐานว่าน้ำกุหลาบน่าจะเป็นของนำเข้ามาจากเปอร์เซียหรือตะวันออกกลาง ส่วนน้ำดอกไม้เทศมาจากอินเดียโดยปรุงขึ้นจากการทำเครื่องหอมจากดอกไม้ต่างๆ มาตั้งแต่ยุคโบราณ จึงมีการผสมกลิ่นดอกไม้หลายชนิดลงไปในเครื่องหอมหรือน้ำหอม
คนไทยรับเอาน้ำกุหลาบมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับแบบแผนวัฒนธรรมไทยโดยแบ่งการใช้ประโยชน์เป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. ของใช้สำหรับชนชั้นสูง ใช้เจือในนำ้ดื่ม เจือน้ำสำหรับอาบ
2. ส่วนประกอบสำหรบพระราชพิธี และศาสนพิธี เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความสะอาด บริสุทธิ์
3. เครื่องบรรณาการ ของกำนัลและของขวัญ แสดงถึงรสนิยมและความสูงส่งของผู้รับ
น้ำกุหลาบในสังคมไทยได้แสดงคุณค่าที่เกินกว่าการเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยของคนต่างชาติต่างศาสนาใน 3 ลักษณะ คือ
1. แสดงถึงสถานภาพของชนชั้นสูง
2. แสดงถึงความมีอารยะ
3. แสดงถึงการผสมผสานทางสังคมวัฒนธรรม
น้ำกุหลาบเปอร์เซียมิได้เป็นเพียงสินค้าที่ชาวสยามชอบเท่านั้น แต่เรื่องราวของเครื่องหอมจากแดนไกลยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งทางศาสนา และความเชื่อ น้ำกุหลาบซึ่งใช้ในพิธีกรรมหรือวิถีชีวิตของชาวมุสลิมเป็นที่พึงใจของชนชั้นสูงชาวสยาม หรือใช้ประพรมในพิธีกรรมทางพุทธศาสนา กลิ่นอายของน้ำกุหลาบยังอบอวลในวิถีชีวิตคนไทยกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่บนเส้นทางแห่งการผสมกลมกลืน น้ำกุหลาบยังสะท้อนถึงวิถีการบริโภคในสังคมชนชั้นสูงที่นำเอาค่านิยมจากภายนอกเข้ามาปรับใช้ในสังคมไทยเพื่อสร้างอัตลักษณ์และระดับความสูงส่งทางชนชั้นอีกด้วย